P. Yaemprasuan picta55@gmail.com
Su-30MKI ( Sukhoi ซูคอย) เป็นเครื่องบินขับไล่โจมตีสมรรถนะสูงของประเทศรัสเซีย ที่ได้รับความนิยมจากกองทัพอากาศในหลายประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐอินเดีย สาธารณรัฐเวเนซูเอลา โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียน เช่น เวียตนาม อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ล้วนสั่งซื้อเข้าประจำการ

ประเทศไทยเองสมัยที่มีนายกรัฐมนตรีชื่อทักษิณ ชินวัตร ก็คิดจะซื้อเครื่องบินรุ่นนี้เข้ามาใช้เหมือนกัน (ราคาลำละประมาณ34 ล้านเหรียญสหรัฐ ตีเป็นเงินไทยก็น่าจะเป็นพันล้านบาทต่อลำ) โดยเอาสินค้าไก่ของไทยที่ในขณะนั้นโรคไข้หวัดนกกำลังระบาดอย่างรุนแรง ไปแลกซื้อเครื่องบินรัสเซีย (นายวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กับนายกฯ ทักษิณ สองคนนี้เขาเป็นหมู่เฮากัน) ในลักษณะ Barter Trade (แลกสินค้า) แต่หลังจากที่นายกฯทักษิณถูกยึดอำนาจ (ปี 2006) กองทัพไทยก็หันไปซื้อเครื่องบินกริพเพน Gripen จากประเทศสวีเดน (ที่มีขนาดเล็กกว่า และเครื่องยนต์เดียว) โดยให้เหตุผลว่า เหมาะสมกับประเทศไทย (คงมีงบปรพมาณเพื่อการนี้ไม่มาก) และมีค่าการดูแลรักษา maintenance cost ต่ำกว่าเครื่องบินรัสเซีย และสามารถเชื่อมระบบสื่อสารกับเรือรบของกองทัพเรือได้อีกด้วย และสวีเดนประเทศผู้ผลิตยังแถมเครื่องบินและระบบควบคุมมาให้อีกลำหนึ่ง เรียกว่า Valuable (คุมค่า) แต่ในโลกนี้มีเพียง 5 ประเทศ ที่ซื้อเครื่องบิน Gripen ไปใช้ในกองทัพของตน เช่น สาธารณรัฐเช็ค ประเทศฮังการี สหภาพแอฟริกาใต้ สาธารณรัฐอินเดีย และประเทศไทย

SU 30 กองทัพอากาศรัสเซีย (เพ็นท์สีธงชาติสหพันธรัฐรัสเซีย)
Su-30MKI ( Sukhoi ซูคอย) เป็นเครื่องบินขับไล่โจมตีสมรรถนะสูงของประเทศรัสเซีย ที่ได้รับความนิยมจากกองทัพอากาศในหลายประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐอินเดีย สาธารณรัฐเวเนซูเอลา โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียน เช่น เวียตนาม อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ล้วนสั่งซื้อเข้าประจำการ
เครื่องบินขับไล่ SU-30 ของอินโดนีเซีย (2 ลำใกล้) ขณะฝึกซ้อมร่วมกับ F-18 (2 ลำไกล) ของกองทัพออสเตรเลีย
ประเทศไทยเองสมัยที่มีนายกรัฐมนตรีชื่อทักษิณ ชินวัตร ก็คิดจะซื้อเครื่องบินรุ่นนี้เข้ามาใช้เหมือนกัน (ราคาลำละประมาณ34 ล้านเหรียญสหรัฐ ตีเป็นเงินไทยก็น่าจะเป็นพันล้านบาทต่อลำ) โดยเอาสินค้าไก่ของไทยที่ในขณะนั้นโรคไข้หวัดนกกำลังระบาดอย่างรุนแรง ไปแลกซื้อเครื่องบินรัสเซีย (นายวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กับนายกฯ ทักษิณ สองคนนี้เขาเป็นหมู่เฮากัน) ในลักษณะ Barter Trade (แลกสินค้า) แต่หลังจากที่นายกฯทักษิณถูกยึดอำนาจ (ปี 2006) กองทัพไทยก็หันไปซื้อเครื่องบินกริพเพน Gripen จากประเทศสวีเดน (ที่มีขนาดเล็กกว่า และเครื่องยนต์เดียว) โดยให้เหตุผลว่า เหมาะสมกับประเทศไทย (คงมีงบปรพมาณเพื่อการนี้ไม่มาก) และมีค่าการดูแลรักษา maintenance cost ต่ำกว่าเครื่องบินรัสเซีย และสามารถเชื่อมระบบสื่อสารกับเรือรบของกองทัพเรือได้อีกด้วย และสวีเดนประเทศผู้ผลิตยังแถมเครื่องบินและระบบควบคุมมาให้อีกลำหนึ่ง เรียกว่า Valuable (คุมค่า) แต่ในโลกนี้มีเพียง 5 ประเทศ ที่ซื้อเครื่องบิน Gripen ไปใช้ในกองทัพของตน เช่น สาธารณรัฐเช็ค ประเทศฮังการี สหภาพแอฟริกาใต้ สาธารณรัฐอินเดีย และประเทศไทย
Gripen เครื่องบินขับไล่โจมตีของกองทัพอากาศไทย ประจำการที่กองบิน 7 สุราษฏร์ธานี
Gripen (new generation) บินทดสอบโดยนักบินกองทัพอากาศอินเดีย
SU 30 จะมีสองปล่อง twin engine หรือสองเครื่องยนต์ (F-16 มีปล่องเดียว) เทียบสมรรถนะได้กับ F-18 ของกองทัพสหรัฐอเมริกา (แต่ราคาถูกกว่า) เป็นเครื่องบินขับไล่โจมตีที่จะเอาไว้ต่อกรกับกองเรือ ฝูงบิน และอาวุธภาคพื้นดิน ปฏิบัติภารกิจได้ทุกกาลอากาศ (all weather mission) ทั้งกลางวันและกลางคืน
.
.
No comments:
Post a Comment